ย่างกุ้ง vs เนปิดอร์ ที่ไหนคือเมืองหลวงหรือศูนย์กลางเศรษฐเมียนมาร์-พม่ากิจกันแน่?
เชื่อว่าหลายๆคนคงได้ทราบมาก่อนแล้วว่าประเทศเมียนมาร์หรือพม่าได้ประกาศย้ายเมืองหลวงจากเดิมคือย่างกุ้ง(Yangon) เป็นเนปิดอร์(์Naypyidaw) ในปี พ.ศ.2551 จากที่เริ่มสร้างเมืองเนปิดอร์ ตั้งแต่ปี พ,ศ.2548 คำถามคือ การย้ายเมืองหลวงของพม่าในครั้งนี้ มีผลกระทบอย่างไรตลอดเวลา 5 ปี ที่ผ่านมา?
หากถามคนพม่าส่วนใหญ่แล้ว มักจะเล่าเป็นเรื่องติดตลกว่า เนปิดอร์มีทุกอย่าง ยกเว้นประชาชนพม่าเพราะที่นั่นร้อนเกินไปที่จะอยู่ ซึ่งหากเราไปแล้วก็จะพบถนน 8 เลน มีโรงแรมและรีสอร์ทเต็มสองข้างทาง แต่มีรถน้อนมากหรือแทบจะไม่มีเลยก็ว่าได้ ปัจจุบันเนปิดอร์เป็นที่ตั้งจองหน่วยงานรายการหลักของเมียนมาร์(พม่า) และธุรกิจส่วนใหญ่ในเมืองก็เกิดจากการลงทุนจากต่างชาติผ่านความร่วมมือกับรัฐบาลพม่า ซึ่งส่วนมากจะเป็นประเทศจีน แต่ในช่วงงานประมูลหยกประจำปี คนจีนก็หลั่งไหลเข้ามาจนโรงแรมเต็มเช่นกัน ซึ่งปัจจุบันก็ยังมีโครงการก่อสร้างใหม่เกิดขึ้นเรื่อยๆ จริงๆหลังจากการย้ายเมืองหลวง คนพม่าที่มีเงินเท่านั้นถึงจะมีที่ดินในเนปิดอร์ได้ ซึ่งคนส่วนใหญ่ในย่างกุ้งก็ยังใช้ชีวิตและอาศัยอยู่ที่เดิม นั่นก็หมายความว่าเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศพม่าที่เคยขับเคลื่อนที่ย่างกุ้งเป็นหลัก ก็ยังคงอยู่ที่ย่างกุ้งเช่นเดิม และด้วยที่ย่างกุ้งมีความได้เปรียบหลายอย่างในด้านเศรษฐกิจ คือ อยู่ติดทะเล มีท่าขึ้นเรือสินค้าทั้งจากประเทศจีน สิงคโปร์ เวียดนาม ไทยและอื่นๆ รวมถึงความเจริญจากการที่เคยเป็นเมืองหลวงเดิมทั้งในด้านเศรฐกิจและศาสนาที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน จึงทำให้ย่างกุ้งยังคงเป็นศูนย์กลางเศรฐกิจของพม่า แต่ทั้งนี้ก็ต้องรอดูต่อไปว่า รัฐบาลเมียนมาร์(พม่า) จะมีนโยบาลอย่างไรในเรื่องนี้
หลังจากการย้ายศูนย์ราชการไปไว้ที่เมืองเนปิดอร์ เรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ตามมาคือ ความยุ่งยากในการติดต่อกับหน่วยงานราชการ เนื่องจากธุรกิจและกิจกรรมทางการค้าส่วนใหญ่เกิดขึ้นที่ย่างกุ้ง การเดินทางจากย่างกุ้งไปเนปิดอร์โดยรถใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมง แต่ทั้งนี้หน่วยงานย่อยต่างๆก็ยังคงอยู่ที่ย่างกุ้ง เพียงแต่การดำเนินการเรื่องใหญ่ๆที่ไม่สามารถดำเนินการผ่านหน่วยงานย่อยได้เท่านั้น ที่จำเป็นจะต้องเดินทางไปติดต่อที่หน่วยงานศูนย์ที่เนปิดอร์ เช่นการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท การขอลดภาษีการนำเข้าสินค้าในกลุ่มประเทศอาเซียน เป็นต้น
ป.ล.รูปที่ลงเป็นรูปที่ย่างกุ้งนะคะ เจนหารูปที่เนปิดอร์ไม่เจอ ถ้าเจอแล้วจะเอามาอัพเดทให้ค่ะ
หากถามคนพม่าส่วนใหญ่แล้ว มักจะเล่าเป็นเรื่องติดตลกว่า เนปิดอร์มีทุกอย่าง ยกเว้นประชาชนพม่าเพราะที่นั่นร้อนเกินไปที่จะอยู่ ซึ่งหากเราไปแล้วก็จะพบถนน 8 เลน มีโรงแรมและรีสอร์ทเต็มสองข้างทาง แต่มีรถน้อนมากหรือแทบจะไม่มีเลยก็ว่าได้ ปัจจุบันเนปิดอร์เป็นที่ตั้งจองหน่วยงานรายการหลักของเมียนมาร์(พม่า) และธุรกิจส่วนใหญ่ในเมืองก็เกิดจากการลงทุนจากต่างชาติผ่านความร่วมมือกับรัฐบาลพม่า ซึ่งส่วนมากจะเป็นประเทศจีน แต่ในช่วงงานประมูลหยกประจำปี คนจีนก็หลั่งไหลเข้ามาจนโรงแรมเต็มเช่นกัน ซึ่งปัจจุบันก็ยังมีโครงการก่อสร้างใหม่เกิดขึ้นเรื่อยๆ จริงๆหลังจากการย้ายเมืองหลวง คนพม่าที่มีเงินเท่านั้นถึงจะมีที่ดินในเนปิดอร์ได้ ซึ่งคนส่วนใหญ่ในย่างกุ้งก็ยังใช้ชีวิตและอาศัยอยู่ที่เดิม นั่นก็หมายความว่าเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศพม่าที่เคยขับเคลื่อนที่ย่างกุ้งเป็นหลัก ก็ยังคงอยู่ที่ย่างกุ้งเช่นเดิม และด้วยที่ย่างกุ้งมีความได้เปรียบหลายอย่างในด้านเศรษฐกิจ คือ อยู่ติดทะเล มีท่าขึ้นเรือสินค้าทั้งจากประเทศจีน สิงคโปร์ เวียดนาม ไทยและอื่นๆ รวมถึงความเจริญจากการที่เคยเป็นเมืองหลวงเดิมทั้งในด้านเศรฐกิจและศาสนาที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน จึงทำให้ย่างกุ้งยังคงเป็นศูนย์กลางเศรฐกิจของพม่า แต่ทั้งนี้ก็ต้องรอดูต่อไปว่า รัฐบาลเมียนมาร์(พม่า) จะมีนโยบาลอย่างไรในเรื่องนี้
หลังจากการย้ายศูนย์ราชการไปไว้ที่เมืองเนปิดอร์ เรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ตามมาคือ ความยุ่งยากในการติดต่อกับหน่วยงานราชการ เนื่องจากธุรกิจและกิจกรรมทางการค้าส่วนใหญ่เกิดขึ้นที่ย่างกุ้ง การเดินทางจากย่างกุ้งไปเนปิดอร์โดยรถใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมง แต่ทั้งนี้หน่วยงานย่อยต่างๆก็ยังคงอยู่ที่ย่างกุ้ง เพียงแต่การดำเนินการเรื่องใหญ่ๆที่ไม่สามารถดำเนินการผ่านหน่วยงานย่อยได้เท่านั้น ที่จำเป็นจะต้องเดินทางไปติดต่อที่หน่วยงานศูนย์ที่เนปิดอร์ เช่นการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท การขอลดภาษีการนำเข้าสินค้าในกลุ่มประเทศอาเซียน เป็นต้นป.ล.รูปที่ลงเป็นรูปที่ย่างกุ้งนะคะ เจนหารูปที่เนปิดอร์ไม่เจอ ถ้าเจอแล้วจะเอามาอัพเดทให้ค่ะ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น